1. เพื่อประโยชน์ของการสื่อสาร
ในระยะแรกนั้นการบันทึกเวชระเบียนเพื่อใช้สำหรับกาสื่อสารระหว่าบุคคลที่รับผิดชอบในการดูแลรักษาผู้ป่วย สำหรับความต้องการปัจจุบันและอนาคต ผู้ป่วยแต่ละคนจะมีผู้ดูแลและรักษาหลายคน ในโรงพยาบาลจะมีเจ้าหน้าที่ลงทะเบียนรับผู้ป่วยในรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับตัวผู้ป่วยเพื่อแสดงให้ทราบว่าเป็นผู้ใด และค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานะของผู้ป่วย ขณะที่มีการดูแลรักษามีบุคคลอื่นจำนวนที่เกี่ยวข้องในการดูแลผู้ป่วยและเป็นผู้ซึ่งมีส่วนในการบันทึกข้อมูลในเวชระเบียนได้แก่
1. คณะแพทย์ทั้งหมด แพทย์ ศัลยแพทย์ สูติแพทย์ ฯลฯ
2. พยาบาล
3. นักกายภาพบำบัด
4. นักอาชีวะบำบัด
5. นักสังคมสงเคราะห์
6. เจ้าหน้าที่ห้วงปฏิบัติการ
7. นักโภชนาการ
8. นักศึกษาแพทย์
9. นักรังสี ฯลฯ
ข้อมูลทั้งหมดที่รวบรวมเกี่ยวกับผู้ป่วย 1 คน จะต้องบันทึกและมีการประสานกัน คำวินิจฉัยของผู้เชี่ยวชาญแต่ละคนจะต้องเป็นประโยชน์สำหรับผู้อื่นในการกระทำหน้าที่ของเขาอย่างฉลาด โดยเฉพาะแพทย์ผู้รับผิดชอบต่อผู้ซึ่งต้องให้การวินิจฉัยโรคขั้นสุดท้าย และ สั่งการรักษาลงบนเอกสารซึ่งเป็นหลักฐานที่สำคัญ นี่คือประโยชน์อันดับแรกในการบันทึกของบุคคลหนึ่งและเป็นผลประโยชน์ของผู้ ป่วยทั้งในปัจจุบันและอนาคต
2. เพื่อการรักษาผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง
ผู้ป่วยมักจะรักษาซึ่งอีกทั้งในที่เดิม หรือโรงพยาบาลอื่น ๆ หรือทำการรักษาพยาบาลซึ่งที่คลินิก ประวัติการรักษาของเขาควรจะต้องพร้อมที่จะใช้สำหรับการประเมินในการให้แง่คิดในอาการของโรคปัจจุบัน ข้อมูลที่บันทึกอยู่ในเวชระเบียนเป็นสิ่งที่จำเป็นระหว่าโรงพยาบาล คลินิก และคนทำงานด้านสุขภาพพื้นฐานในการติดต่อกับผู้ป่วย ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนทำงานซึ่งรับผิดชอบต่อผู้ป่วยทั้งหมด ควรจะได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับการรักษาในโรงพยาบาลในทันที จำเป็นไปได้หลังจากผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล หน้าที่หลักของหน่วยงานเวชระเบียนในโรงพยาบาล หรือคลินิก ในเนื้อความนี้หมายถึง พื้นที่ที่ให้บริการนั่นคือ เวชระเบียนควรจะนำมาแสดงต่อผู้ป่วยได้ตลอดเวลาและรวดเร็วถ้าเป็นไปได้ ใน Discharge summaryและเอกสารจะช่วยในการประมวลผลว่าประชาชนออกจากโรงพยาบาล อาจจะแจ้งความก้าวหน้าของผู้ป่วยและการจัดการหลังจากกลับบ้าน
3. เพื่อประเมินผลการดูแลรักษาผู้ป่วย
ในการประเมินผลสิ่งใดซึ่งเป็นเรื่องของบุคคล จะต้องมีความรับผิดชอบต่อสุขภาพของพวกเขา และควรยื่นมือเข้าช่วยเหลือเป็นอย่างดี นั่นคือจะต้องมีกลไกทำให้สามารถประเมินผลเกี่ยวกับมาตรฐานการรักษาที่กำหนดไว้ ในบางประเทศโรงพยาบาลมีการประเมินโดยระบบรับรองคุณภาพ มี การสำรวจในแต่ละโรงพยาบาลเกี่ยวกับการทำคุณภาพและโรงพยาบาลให้การรับรองโดย คณะกรรมการจะมีข้อจำกัดในเรื่องจำนวนขึ้นอยู่กับการพัฒนาให้อยู่บนมาตรฐาน ซึ่งแล้วแต่ความสามารถของโรงพยาบาล ในขณะเดียวกันมีบางประเทศ เวชระเบียนที่ให้บริการของโรงพยาบาลจะต้องมีมาตรฐาน มีการรับรองคุณภาพโดยหัวหน้าคณะซึ่งจะเป็นการเพิ่มฐานะและเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการยอมรับในหลาย ๆ พื้นที่
วิธีอื่นในการประเมินผลการดูและรักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาลประกอบด้วย
1) คณะกรรมการดูแลผู้ป่วย โดยปกติสมควรจะมีการตรวจสอบตัวอย่างการบันทึกประวัติและประเมินผลมาตรฐานของการบันทึก
2) การตรวจในระดับเดียวกัน แพทย์ผู้ให้บริการอาจจะประเมินผลการทำงานซึ่งกันและกันและให้ทำร่วมกันคลอดการบันทึก
3) คณะกรรมการบริหารโรงพยาบาล อาจะประเมินมาตรฐานการดูแลในหอผู้ป่วยเป็นพิเศษหรือโดยเฉพาะแพทย์หรือศัลยแพทย์
4) สถิติ ได้มาจากการบันทึกอาจจะทำให้ในการกำหนดมาตรฐานซึ่งอาจจะทำเฉพาะภายในโรงพยาบาล ตัวอย่างเช่น การประเมินผล อัตราการติดเชื้อเฉพาะหอผู้ป่วยหรือเฉพาะการทำการผ่าตัด หรือระหว่างคลินิก โรงพยาบาล หรือประเทศ ซึ่งบางเรื่องสถิติจะใช้ประโยชน์กับหน่วยงานรัฐบาล เช่น หน่วยงานสาธารณสุข สำนักสำรวจสำมะโนประชากรและสถิติ หรือองค์กรที่ไม่ใช่ของรัฐ เช่นองค์การอนามัยโลก โดยจากหน่วยงานสาธารณสุขของเกือบทุกประเทศ องค์กรเพื่อจะบอกกล่าวเกี่ยวกับโรคติดต่อ เช่น วัณโรค อหิวาตกโรค ตัวอักเสบ ฯลฯ
4. เพื่อประวัติศาสตร์
เวชระเบียนแต่ละเล่มของผู้ป่วยแต่ละคน คือ บันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับการแสดงตน และความเจ็บป่วยของผู้ป่วยนั้นอย่างละเอียดและสมบูรณ์ ในส่วนการแสดงตนจะมีรายละเอียดของชื่อ สกุล อายุ เพศ สถานภาพการสมรส เชื้อชาติ สัญชาติ บ้านเลขที่ ฯลฯ ในส่วนความเจ็บป่วยจะมีรายละเอียด เช่น ประวัติความเจ็บป่วยของผู้ป่วย อาการเจ็บป่วยในปัจจุบัน การตรวจด้วยวิธีต่าง ๆ การรักษาพยาบาลที่เคยได้รับมาแล้วจากที่ไหนบ้าง เมื่อใด ผลเป็นอย่างไรบ้าง
5. เพื่อกฎหมาย
นี่คือเวชระเบียนเป็นประโยชน์ในทางพยานหลักฐาน โดยเป็นข้อคิดเห็นที่ไม่มีอคติของสภาพผู้ป่วย ประวัติและการพยากรณ์ในเวลาที่เกิดเจ็บป่วย เมื่อยังไม่ได้มีปัญหาทางศาลมาเกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากใช้ประโยชน์ได้ทั้ง 2 อย่าง
ทั้งภายในและภายนอกศาลสำหรับการรับมือกับปัญหาข้อโต้แย้ง เช่น
- ใช้ประเมินความรุนแรงของการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ
- เป็นหลักฐานดูว่ามีความประมาท ละเลย ในทางวิชาชีพหรือโรงพยาบาล ในการดูแลรักษาผู้ป่วยเวชระเบียนมีส่วนช่วยในการปกป้องด้านกฎหมายเพื่อความมั่นใจของผู้ป่วย โรงพยาบาลและวิชาชัพ หรือไม่สุขภาพ
6. เพื่อสถิติ
สถิติที่รวบรวมในโรงพยาบาล คลินิก และศูนย์สุขภาพปฐมภูมิ อาจจะนำมาใช้ประโยชน์ในรูปของตารางสถิติของโรค การทำการผ่าตัดหัตถการ การหายจากโรคหลังจากทำการรักษา ประเมินสถานที่ซึ่งให้บริการโรงพยาบาล หรือคลินิก โดยรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสถิติประชากร หรือสาธารณสุข หรือ ระบาดวิทยา ซึ่งใช้ในการวางแผนพัฒนาในอนาคต
7. เพื่อการศึกษาและการวิจัย
ที่ ผ่านมาเวชระเบียนมีความสำคัญมากในการศึกษาทางการแพทย์ แต่ในการอธิบายทางระบาดวิทยาที่ใช้ที่ใช้เป็นแผนภูมิ ข้อมูลส่วนมากที่เก็บไว้ในเวชระเบียนส่วนใหญ่จะใช้สำหรับการบริหารและการค้น คว้าเกี่ยวกับสุขภาพทั่วไปการ วิเคราะห์ประเภทของผู้ป่วยรวมกับการวิจัยชนิดของโรคการเจ็บป่วยในโรงพยาบาล รายละเอียดจากตึกผู้ป่วยหรือจากการวินิจฉัยโรคและการรักษาคนไข้ทั้งหมดนี้ เป็นจุดสำคัญสำหรับการวางแผนการให้บริการในอนาคต และการเตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์ การคิดอัตราของคนไข้จะแสดงสัญลักษณ์เป็นตัวเลข เป็นเกณฑ์ที่จะต้องส่งให้กระทรวงทั้งหมด การไหลเวียนงานของโรงพยาบาลหรือสถานบริการเป็นการวิเคราะห์ครั้งเดียวไม่ได้ บันทึกในเวชระเบียนเนื่องจากมันเพิ่มขึ้นมากโดยผิดปกติของสุขภาพ โดยหน้าที่แพทย์ต้องเข้าใจและสนใจในตัวคนไข้ ทั้งหมดเหล่านี้ต้องแจ้งให้ทราบถึงผลหรืออย่างอื่นในการวางแผนรักษาสุขภาพ และระบบในการติดต่อสื่อสาร